Marketing Decision Model การตัดสินใจทางการตลาด
นักการตลาดจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ
และจะต้องหาทางแก้ไขปัญหานั้นซึ่งแต่ละปัญหามีทางเลือกในการแก้ปัญหาได้มากมาย
นักการตลาดจะต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาภายใต้สภาวการณ์ต่างๆ
ทฤษฎีการตัดสินใจจึงมีบทบาทสำคัญมากที่จะช่วยนักการตลาดในการตัดสินใจโดยการประเมินผลได้และผลเสีย
ของแต่ละทางเลือก ในการประเมินผลนักการตลาดไม่อาจทราบได้อย่างแน่นอนว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่สามารถพยากรณ์ได้ว่าเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นและและก่อให้เกิดผลได้และเสียเป็นจำนวนเท่าใด
ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์หรือผู้ตัดสินใจ
ตลอดจนข้อมูลที่นำเข้ามาช่วยตัดสินใจถูกต้องแม่นยำหรือเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ในการพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ
ทางการตลาดยังต้องอาศัยเทคนิคทางสถิติ โดยเอาความน่าจะเป็นมาประกอบเป็นแนวทางในการตัดสินใจและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
แต่บางสถานการณ์นักการตลาดไม่อาจทราบความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์ต่างในอนาคตได้
เนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะทำได้ จึงต้องอาศัยการตัดสินใจที่เรียกว่า
การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน
แบบจำลองที่ใช้ในการตัดสินใจทางการตลาด(Marketing Models) ประกอบด้วย
1.ทฤษฎีการตัดสินใจภายใต้เงื่อนไขต่างๆ(Decision Theory)
2.การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน(Break-even Analysis)
3.การบริหารสินค้าคงคลัง(Inventory Models)
4.การจัดสรรทรัพยากร(Allocation Models)เช่น ตัวแบบการขนส่ง(Transportation)
การมอบหมายงาน(Assignment)
โปรแกรมเชิงเส้น(Linear Programming)โปรแกรมเชิงเส้นไม่ตรง(Nonlinear Programming)โปรแกรมเชิงเส้นจำนวนเต็ม(Integer Programming) โปรแกนมเป้าหมาย(Goal Programming)โปรแกรมพลวัต(Dynamic Programming)
5.ตัวแบบการรอคอยการใช้หรือให้บริการ(Queuing Models)
6.ตัวแบบการแข่งขัน(Competitive Models) ทฤษฎีเกมส์(Games
Theory)
7.ตัวแบบวิเคราะห์พฤติกรรมทางการตลาดด้วย Markov Chain
8.ตัวแบบจำลองโดยใช้ข้อมูลในอดีต(Simulation Model)
9.แบบการพยากรณ์ในอนาคต(Forecasting)